วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

วรรคทองของนิราศพระบาท

  ๏เจ้าของตาลรักหวานขึ้นปีนต้นระวังตนตีนมือระมัดมั่น
เหมือนคบคนคำหวานรำคาญครันถ้าพลั้งพลันเจ็บอกเหมือนตกตาล
เห็นเทพีมีหนามลงราน้ำเปรียบเหมือนคำคนพูดไม่อ่อนหวาน
เห็นกิ่งกีดมีดพร้าเข้ารารานถึงหนามกรานก็ไม่เหน็บเหมือนเจ็บทรวง

    ๏อนิจจาธานินทร์สิ้นกษัตริย์เหงาสงัดเงียบไปดังไพรสณฑ์
แม้กรุงยังพรั่งพร้อมประชาชนจะสับสนแซ่เสียงทั้งเวียงวัง
มะโหรีปี่กลองจะก้องกึกจะโครมครึกเซ็งแซ่ด้วยแตรสังข์
ดูพาราน่าคิดอนิจจังยังได้ฟังแต่เสียงสกุณา
    ๏ กำแพงรอบขอบคูก็ดูลึกไม่น่าศึกอ้ายพม่าจะมาได้
ยังให้มันข้ามเข้าเอาเวียงชัยโอ้อย่างไรเหมือนบุรีไม่มีชาย

    ๏เข้าลำคลองหัวรอตอระดะดูเกะกะรอร้างทางพม่า
เห็นรอหักเหมือนหนึ่งรักพี่รอราแต่รอท่ารั้งทุกข์มาตามทาง

    ๏พื้นผนังหลังบัวที่ฐานบัทม์เป็นครุฑอัดยืนเหยียบภุชงค์ขยำ
หยิกขยุ้มกุมวาสุกรีกำกินนรร่ำรายเทพประนมกร
ใบระกาหน้าบันบนชั้นมุขสุวรรณสุกเลื่อมแก้วประภัสสร
ดูยอดเยี่ยมเทียมยอดยุคนธรกระจังซ้อนแซมใบระกาบัง
นาคสะดุ้งรุงรังกระดึงห้อยใบโพธิ์ร้อยระเรงอยู่เหง่งหงั่ง
เสียงประสานกังสดาลกระดึงดังวิเวกวังเวงในหัวใจครัน

    ๏ถึงเขาขาดพี่ถามถึงนามเขาผู้ใหญ่เล่ามาให้ฟังที่กังขา
ว่าเดิมรถทศกัณฐ์เจ้าลงกาลักสีดาโฉมฉายมาท้ายรถ
หนีพระรามกลัวจะตามมารุกรบกงกระทบเขากระจายทลายหมด
ศิลาแตกแหลกลงด้วยกงรถจึงปรากฎตั้งนามมาตามกัน...








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น